หลังจากผมเดินทางกลับจากพักผ่อนที่ต่างประเทศ ก็มีจดหมายอีเมล์หลายฉบับครับที่เข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับการเทรดไบนารี่ออฟชั่น ซึ่งตอนนี้ผมกำลังทยอยตอบให้นะครับ แต่ในส่วนหนึ่งของคำถามที่ผมเห็นว่ามีความสำคัญคือ เรื่องของภาษี (Tax) ซึ่งเทรดเดอร์หลายคนสงสัยว่า สรุปแล้วเงินได้ที่มาจากการเทรด forex และไบนารี่ออฟชั่นนั้น ต้องเสียภาษีหรือไม่ และหากเสียภาษี จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ชัดเจน และใช้เป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกันสำหรับเทรดเดอร์ ผมขอตอบดังนี้ครับ

1.การเทรด forex ไบนารี่ออฟชั่น ถือเป็นเงินได้พึงประเมินหรือไม่ อย่างไร

สิ่งใดก็ตามที่จะเสียภาษีได้นั้น จะต้องเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากรครับ หากสิ่งนั้นไม่เข้าเกณฑ์เงินได้พึงประเมิน ก็ไม่ต้องเสียภาษีแต่อย่างใด ดังนั้น เรามาดูกันว่า รายได้จาก forex และไบนารี่ออฟชั่นนั้น ถือเป็น “เงินได้พึงประเมิน” หรือไม่

จากความหมายข้างต้น ทำให้เราตอบได้อย่างชัดเจนครับ ว่า รายได้จาก forex และออฟชั่นนั้น ถือเป็น “เงินได้” และเป็นเงินได้ที่จัดอยู่ในรูปแบบของเงินได้พึงประเมิน ในรูปแบบของเงินสด โดยจะต้องนำเงินเหล่านั้นมาคำนวณภาษีในรอบปีภาษีนั้น ๆ (1 ม.ค. – 31 ธ.ค.) ของทุกปี ดังนั้นเมื่อรายได้ forex และไบนารี่ออฟชั่น จัดเป็นเงินได้พึงประเมินแล้ว สิ่งที่เราต้องพิจารณาต่อไปคือ แล้วที่มาของเงินได้ล่ะ? เราจะจัดกลุ่มให้กับเงินเหล่านี้อย่างไร

หากเราไม่สามารถระบุแหล่งที่มาของเงินได้ได้อย่างถูกต้อง อาจทำให้เรามีปัญหาตามกฎหมายการฟอกเงิน และทำให้เรามีความผิดขึ้นมาได้ ดังนั้นมาดูกันครับว่า ในส่วนของที่มาของเงินได้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง

2.ที่มาของเงินได้จากการเทรด forex และไบนารี่ออฟชั่นเป็นแบบไหน

เมื่อมาวิเคราะห์ถึงที่มาของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีตามภาษีเงินได้บุคคธรรมดานั้น ต้องมีที่มาตามกฎหมายกำหนดด้วยกันหนึ่งในสองแบบดังนี้คือ

2.1 แหล่งเงินได้เกิดขึ้นภายในประเทศ

สำหรับข้อนี้นั้นผมเชื่อว่า โบรกเกอร์ forex และ ไบนารี่ออฟชั่น ทั้งหมดที่เราเทรดกันอยู่นั้นไม่ได้มีแหล่งที่ตั้งของ Server ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเงินได้นั้นเกิดขึ้นภายในประเทศครับ ดังนั้นจึงไม่เข้าเกณฑ์การเสียภาษีข้อ 2.1 แต่ ยังมีแหล่งเงินได้อีกข้อที่ต้องพิจารณาคือ

2.2 แหล่งเงินได้ที่เกิดขึ้นจากต่างประเทศ

โดยถือว่ารายได้จากการเทรด forex และไบนารี่ออฟชั่น น่าจะเข้าเกณฑ์ข้อนี้ครับ แต่จะเสียภาษีหรือไม่ ให้พิจารณา องค์ประกอบต่อไปนี้คือ

  • 2.2.1 เงินได้เกิดขึ้นในต่างประเทศ. ข้อนี้แน่นอน
  • 2.2.2 ผู้มีเงินได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยเกิน 180 วัน ข้อนี้ผมเชื่อว่าทุก ๆ คนที่เทรด forex และไบนารี่ออฟชั่น ต้องอยู่ในประเทศไทยเกินกว่า 180 วันหรือ 6 เดือนอย่างแน่นอน
  • 2.2.3 ผู้มีเงินได้นำเงินได้เข้ามาในประเทศ. ข้อนี้คือ เราได้นำเงินนั้นเข้ามาในประเทศ ผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทย หรือด้วยวิธีใดๆก็ตาม

ดังนั้นเงินก้อนนั้นจะต้องเสียภาษีคือ ต้องรวมข้อ 2.2.1+2.2.2+2.2.3 ครบทั้ง 3 ข้อนะครับ ขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้ ถ้าขาดแม้เพียงข้อเดียว เงินรายได้ของ forex และไบนารี่ออฟชั่นนั้นๆ ไม่ต้องเสียภาษีแต่อย่างใด

เช่น เราเทรด iqoption มีกำไร 100,000 บาท แต่ในปีภาษี 2561 เราไม่ได้นำเงินก้อนนี้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย ดังนี้แม้เราอยู่ที่ไทยเกินกว่า 180 วัน เราก็ไม่ต้องนำรายได้ก้อนนี้มาเสียภาษีครับ

ดังนั้นผมจึงสรุปให้แบบฟังธงเลยว่า รายได้จาก forex และ ไบนารี่ออฟชั่นนั้น จัดอยู่ในกลุ่มเงินได้ที่มีแหล่งที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งยอดเงินเข้ามาเท่าไหร่ ให้นำไปกรอกใน ภ.ง.ด. อย่างแน่นอน

3.แล้วเราจะกรอกหรือจัดหมวดรายได้อยู่ในกลุ่มใดบ้าง

คำถามที่ตามมาคือ แล้วเราจะจัดกลุ่มรายได้ลงใน เงินได้พึงประเมินประเภทใดได้บ้าง ซึ่งจากการนำแหล่งที่มาของเงินได้มีวิเคราะห์แล้วพบว่า เข้าเกณฑ์ของเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 4 คือรายได้อันเกิดจากดิกเบี้ยเงินปันผล หากคุณมีรายได้จากการเป็น affiliate ที่เกิดจาก iqoption หรือ olymptrade ทั้งหมดก็ต้องถูกนำมาคำนวณเป็นเงินได้ในข้อที่ 4 ทั้งสิ้นครับ

โดยวิธีการเอาตัวเลขมากรอกคือ

1. ให้นับยอดเงินที่โอนเข้าบัญชีธนาคารไทย ที่เราใช้ในการรับเงินจากการเทรด โดยเราอาจไปขอ statement มากก็ได้ แล้วมองหาตัวเลขคือ ยอดเงินโอนเข้ามาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. บวกยอดอย่าให้ผิดนะครับ ทำอย่างช้าๆ

ปล.พยายามผูดโยงบัญชีเข้ากับธนาคารกสิกรไทยนะครับ เพราะเวลาทำ statement นั้นทำง่ายมาก เพียงแค่กดดาวน์โหลดจากใน App ของ K+ เท่านั้น

2.อย่าเอายอดหน้า History Payment ที่อยู่ในโบรกเกอร์มาคำนวณ เพราะเรทการแลกเงินบาทไม่เหมือนกัน อาจทำให้ตัวเลขที่ออกมาคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับยอดที่เข้ามาในบัญชีธนาคารไทยครับ

3.คุณต้องแน่ใจว่าเอายอดเงินมาครบถ้วน อย่าลืม ถ้ามีหลายธนาคาร ก็ต้องเอามารวมกันทั้งหมดนะครับ ยิ่งคุณทำตรงนี้รอบคอบ การเสียภาษีเงินได้พึงประเมิน forex และไบนารี่ออฟชั่นก็จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

4.เอกสารอ้างอิงที่ควรเก็บไว้คือ Statement โดยขีดเส้นสีอแดงๆ ตรงยอดรับที่เราได้มาเก็บไว้เป็นเอกสารอ้างอิงครับ

เมื่อเราได้ยอดเงินทั้งหมดแล้ว ที่เหลือก็ไม่มีอะไรมากครับ เพียงแค่นำเงินได้นั้นไปกรอกลงในเอกสาร ภ.ง.ด.90 โดยสำคัญสุดคืออย่ากรอกเลขผิด ให้ทบทวนตัวเลขให้เรียบร้อยก่อนแล้วจึงดำเนินการกรอกข้อมูลลงไปครับ

4.วิธีการคำนวณเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 4 เป็นอย่างไร

กฎหมายระบุว่า ให้นำเงินทั้งหมดมารวม และไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ นั่นหมายความวว่าหากคุณมีรายได้จากการเทรด forex และไบนารี่ออฟชั่นเยอะ เช่น 1,000,000 บาท ตรงนี้จะไม่สามารถคำนวณหักค่าใช้จ่ายใดๆได้เลยนะครับ ต้องนำมาคำนวณเต็ม แต่เราจะสามารถไปหักค่าลดหย่อนได้ครับ

5.การเทรด forex และไบนารี่ออฟชั่นผิดกฎหมายไทยหรือไม่ และถ้าผิด จะยังต้องเสียภาษีไหม

ตอบเลยครับว่า ยังผิดกฎหมายไทยครับ แต่ตรงนี้คนที่ผิดคือในส่วนของโบรกเกอร์ โดยเราในฐานะผู้เทรดจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆได้ หากโบรกเกอร์นั้นๆตั้งอยู่ในต่างประเทศ โดยเราจะใช้เครื่อง Server เป็นเกณฑ์ครับ

อย่างเคสล่าสุดที่มีปัญหาคือ siamoption อันนั้นคือ Server ตั้งอยู่ในประเทศไทย และดำเนินกิจการค้าเงินโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก กลต. (คล้ายๆกับ Cyces)

ดังนั้นแม้สิ่งที่เราเทรดจะไม่รับรองตามกฎหมายไทย แต่ก็ถือเป็นเงินได้พึงประเมินครับ และนั่นคือสิ่งที่ต้องเสียภาษีตามเกณฑ์ที่บอกไปครับ

6.วิธีกรอก ภ.ง.ด.90 ทำอย่างไร

เพื่อให้ง่ายยิ่งขึ้น ผมได้ทำข้อมูลเป็นภาพออกมาให้ดังขั้นตอนด้านล่างนี้นะครับ จะได้ชัดเจนและพร้อมสำหรับการนำไปใช้เลย

ใครที่มองไม่ชัดหรือว่ามองไม่ออก ผมขยายตัว ภ.ง.ด.90 มาให้แล้วนะครับในภาพด้านล่าง ให้เรากรอกตัวเลขลงไปในข้อ 3.เงินปันผล จากบริษัทต่างประเทศ โดยนำรายได้ทั้งหมดตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. รวมเข้ามากรอกตรงช่องนี้้นะครับ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว

แน่นอนว่าสำหรับใครที่เทรด forex และไบนารี่ออฟชั่นเก่ง ๆ ย่อมต้องมีปัญหาเรื่องยอดเงินที่มาก ทำให้ตนเองนั้นต้องเสียภาษีมากขึ้นด้วย ในขณะที่ เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 4 นั้น ไม่อนุญาตให้เราหักค่าใช้จ่าย 100,000 บาทได้อีกด้วย ถ้าเป็นอย่างนี้เรามีวิธีในการทำให้ตนเองเสียภาษีน้อยลงอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร คำตอบคือ ให้เราพุ่งความสนใจไปที่การหักค่าลดหย่อน ซึ่งค่าลดหย่อนที่น่าสนใจนั้น ผมทำมาให้อ่านแล้วในข้อต่อไปนะครับ ลองอ่านและเอาไปประยุกต์ใช้ดู

7.มีสูตรการประหยัดภาษีสำหรับการเทรด Forex และไบนารี่ออฟชั่นไหม

ตอบ เพื่อให้เราประหยัดภาษีได้มากขึ้น ผมมีเทคนิคดังต่อไปนี้ในการแนะนำคุณครับ ลองนำไปปรับใช้ดู ซึ่งผมเอามาจากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ไม่ได้เป็นสูตรตายตัวประกอบด้วย

7,1 หักค่าลดหย่อนตนเอง 60,000 บาท

7.2 หักค่าลดหย่อนภรรยา 60,000 บาท ถ้ามีนะครับ

7.3 หักค่าลดหย่อนบุตร 30,000 บาท ถ้าคุณมีบุตร แต่หักได้ไม่เกิน 3 คน

7.4 ให้ซื้อกองทุน LTF ให้ได้อย่างน้อย 15% ของเงินได้พึงประเมินที่เราได้รับจากการเทรด Forex หรือไบนารี่ออฟชั่น เช่น เราได้ยอดรับทั้งปีคือ 1,000,000 บาท อย่างนี้ให้เราซื้อกองทุน LTF จำนวน 150,000 บาท โดยยอดสูงสุดในการซื้อ คือ 500,000 บาทนะครับ

7.5 ให้ซื้อกองทุน RMF ให้ได้อย่างน้อยอีก 15% ของเงินได้พึงประเมินที่เราได้รับจากการเทรด Forex และไบนารี่ออฟชั่น เช่น เราได้เงินมา 1,000,000 บาท อย่างนี้ให้ซื้อกองทุน RMF ไปเลย 150,000 บาท โดยยอดซื้อสูงสุดคือ 500,000 บาท

7.6 ให้เปิดบัญชีกองทุนการออมแห่งชาติ และฝากเงินเข้าไป 13,200 บาทครับ ยอดนี้นำไปคิดเป็นค่าลดหย่อนได้

7.7 แบ่งเงินออกมาอีกไม่เกิน 100,000 บาท ลงทุนในบริษัท start up ที่หน่วยงาน sme รับรอง เงินก้อนนั้นเราจะถูกนำไปคิดเป็นค่าลดหย่อนได้อีกครับ

7.8 มีบิดา หรือมารดาที่อายุเกิน 60 ปีและไม่มีเงินได้ ใมห้นำมาหักค่าลดหย่อนเพิ่มได้อีก คนละ 15,000 บาท

7.9 เมื่อนำเงินได้พึงประเมิน หักกับค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนหมดทุกประเภทแล้ว เหลือเงินอยู่เท่าไหร่ ให้เรานำไปบริจาค โดยไม่เกิน 10% ของยอดนั้นๆ เช่นสมมุติยอดเงินได้พึงประเมินสุดท้ายหลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนแล้ว เหลือคือ 1,000,000 บาท อย่างนี้ให้เราหักไป 10% หรือ 100,000 บาท เอาไปบริจาคครับ

พยายามให้ความสำคัญกับข้อ 7.4-7.9 นะครับ เพราะจะช่วยให้เงินได้พึงประเมินเหลือลดน้อยลงมาก เวลานำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็จะเสียน้อยเป็นพิเศษครับ

โดยเน้นให้บริจาคกับหน่วยงานด้านโรงพยาบาล เพราะเงินก้อนนี้เมื่อเราบริจาค เราจะได้รับสิทธิพิเศษในการรักษาพยาบาล รวมทั้งได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วยนะครับ แม้ไม่ได้เป็นผลประโยชน์ด้านตัวเงิน แต่ก็เป็นประโยชน์ทางอ้อม ทำให้คุณดูคลีน และยังมีความภูมิใจด้วย

สรุปแล้วหลังจากหักค่าลดหย่อนทั้งหมด เหลืออยู่เท่าใด ก็นำไปคำนวณเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามระบบฐานภาษีอัตราก้าวหน้าครับ

8.ถ้าเรานำรายได้โอนเข้ามาเป็นบิตคอยน์ต้องเสียภาษีหรือไม่

ตอบ คำถามนี้ดีมากครับ เพราะกำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ และส่วนตัวแล้วถือเป็นช่องว่างในการไม่เสียภาษีเลยทีเดียว เพราะว่าเดี๋ยวนี้โบรกเกอร์ forex และไบนารี่ออฟชั่น เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์และ IB สามารถถอนเงินออกมาเป็น Bitcoin ได้ และโอนเข้ามายังเว็บเทรดเช่น bx.in.th ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้มีกฎหมายระบุชัดเจนว่ายอดถอนเงินจากเว็บเหล่านี้ต้องนำมาคิดภาษีทันที 15% ซึ่งกฎหมายนั้นประกาศใช้แล้ว แต่ในทางปฏิบัติ อาจต้องใช้เวลาอยู่พอควร

นี่ยังไม่นับรวมการซื้อขายบิตคอยน์แบบ P2P เช่นการใช้บิตคอยน์ที่กระดานเทรด ซึ่งทำให้ไม่สามารถตรวจสอบธุรกรรมการเงินได้เลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า การเปลี่ยนเงินรายได้จาก forex และไบนารี่ออฟชั่น ให้เป็นบิตคอยน์ และมาทำการซื้อขายออกเป็นเงินบาทในตลาด p2p ส่งผลให้บุคคลนั้นไม่ต้องนำเงินดังกล่าวเข้ามาคำนวณเสียภาษีเงินได้นั่นเอง

บทสรุป

สรุปแล้ว รายได้จากการเทรด forex หรือไบนารี่ออฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม จะต้องนำมายื่นแสดงรายการภาษี ใน ภ.ง.ด.90 ทั้งสิ้น เพื่อทำการประเมินภาษีที่เราต้องจ่ายออกมา ดังนั้นหากคุณเป็นหนึ่งในเทรดเดอร์ อย่าลืมทำเรื่องสำคัญนี้ให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 31 มี.ค. ในปีถัดไปนะครับ เพื่อที่ว่าจะได้ทำให้คุณนั้นใช้เงินอย่างสบายใจ และไม่โดนเรียกปรับภาษีย้อนหลังอีกด้วย


ไดฟูกุ
ไดฟูกุ

สวัสดีครับผมไอบีต้น เป็นนักเขียนอิสระที่สนใจเกี่ยวกับ การลงทุน การหาเงินด้วยสัญญาไบนารี่ออฟชั่น ผมไม่ใช่โค้ช หรือคนเก่งด้านนี้นะครับ แต่ผมจะค้นหาคนเก่ง แกะเทคนิคจากเขาเหล่านั้นเอามาจัดระบบและสอนผ่านโรงเรียนออนไลน์แห่งนี้ เพื่อให้คุณมีฐานข้อมูลที่ดีที่สุดในการเป็นเทรดเดอร์ไบนารี่ออฟชั่นครับ